หลังจากทุกท่านได้ลองศึกษาเรื่องความสำคัญของยางรถยนต์และเรื่องช่วงล่างของรถยนต์ว่ามีความสำคัญต่อคนขับและเพื่อนนั่งร่วมทางอย่างไรไปบ้างแล้ว
วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของน้ำมันเครื่องกันบ้างดีกว่าครับว่าน้ำมันเครื่องมีกี่แบบ
ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม เมื่อไหร่ควรจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และมีวันหมดอายุหรือไม่กันครับ
น้ำมันเครื่องคืออะไร และมีกี่แบบ
น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า น้ำมันหล่อลื่น หรือ น้ำมันเครื่อง ประกอบไปด้วย 2 ส่วนที่สำคัญคือ น้ำมันพื้นฐาน และสารเพิ่มคุณภาพ
น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ลดแรงเสียดทานของวัตถุชิ้นที่เสียดสีกัน
ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ และเคลือบช่องว่างระหว่างผิวสัมผัส
ทำความสะอาดเขม่าและเศษโลหะภายในเครื่องยนต์ ป้องกันการกัดกร่อนจากสนิมและกรดต่างๆ
และป้องกันกำลังอัดของเครื่องยนต์รั่วไหล เป็นต้น
นอกจากนี้น้ำมันเครื่องยังแบ่งได้เป็น3แบบดังนี้
1.
น้ำมันเครื่องธรรมดา (Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม
ใช้งานได้ประมาณ 3,000-5,000 กม. ข้อดีของน้ำมันชนิดนี้คือ
มีราคาถูก เหมาะกับเครื่องที่หลวม (เครื่องที่มีควันขาวออกมาจากท่อไอเสียนั้นเองครับ)
ข้อเสียคือใช้ได้ระยะทางน้อย และเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ ข้อดีของน้ำมันชนิดนี้คือมีคุณภาพดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อยู่บ้าง แต่กี่เปอร์เซนต์นั้นขึ้นอยู่แต่ละยี่ห้อที่ผลิตออกมา และข้อดีอีกข้อคือมีราคาถูกกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์ จากน้ำมันปิโตรเลียม ข้อดีของน้ำมันเครื่องชนิดนี้มีดังนี้ 1. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีโมเลกุลที่ลื่นกว่าจึงหล่อลื่นดีกว่าทำให้รู้สึกได้ว่าวิ่งดีกว่าและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 2. ฟิล์มน้ำมันมีความแข็งแรงกว่าจึงช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่เสียดสีกันได้ดีกว่า โดยเฉพาะที่ความร้อนสู งๆ 3. ทนความร้อนและระบายความร้อนออกจากชิ้นส่วนที่เสียดสี กันได้ดีและเร็วกว่า 4. ต้านอ๊อกซิเดชั่นได้สูงกว่าทำให้เสื่อมช้ากว่าจึ่งลื่นและปกป้องชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ได้ดีกว่าตลอดการใช้งานจนถึงระยะเปลี่ยนถ่าย 5. มีสารชะล้างสูงกว่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์จึงสะอาด ลดคราบเขม่าและไม่ก่อให้เกิดตะกอนน้ำมันดำๆเมื่อใช้อย่างต่อเรื่องและมีการเปลี่ยนถ่ายตามระยะ 6. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มักจะมีสารช่วยรักษาซีลและยา งต่างๆให้นุ่มไม่แข็งแตกร้าวและกรอบง่าย ข้อเสียเปลี่ยนเป็น ไม่ควรใช้กับเครื่องยนต์เก่าที่สึกหรอหรือหลวม ซีลวาล์วหรือซีลต่างๆรั่ว เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องมาก(น้ำมันเครื่องหาย)
2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับชนิดสังเคราะห์ ข้อดีของน้ำมันชนิดนี้คือมีคุณภาพดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อยู่บ้าง แต่กี่เปอร์เซนต์นั้นขึ้นอยู่แต่ละยี่ห้อที่ผลิตออกมา และข้อดีอีกข้อคือมีราคาถูกกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์ จากน้ำมันปิโตรเลียม ข้อดีของน้ำมันเครื่องชนิดนี้มีดังนี้ 1. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีโมเลกุลที่ลื่นกว่าจึงหล่อลื่นดีกว่าทำให้รู้สึกได้ว่าวิ่งดีกว่าและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 2. ฟิล์มน้ำมันมีความแข็งแรงกว่าจึงช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่เสียดสีกันได้ดีกว่า โดยเฉพาะที่ความร้อนสู งๆ 3. ทนความร้อนและระบายความร้อนออกจากชิ้นส่วนที่เสียดสี กันได้ดีและเร็วกว่า 4. ต้านอ๊อกซิเดชั่นได้สูงกว่าทำให้เสื่อมช้ากว่าจึ่งลื่นและปกป้องชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ได้ดีกว่าตลอดการใช้งานจนถึงระยะเปลี่ยนถ่าย 5. มีสารชะล้างสูงกว่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์จึงสะอาด ลดคราบเขม่าและไม่ก่อให้เกิดตะกอนน้ำมันดำๆเมื่อใช้อย่างต่อเรื่องและมีการเปลี่ยนถ่ายตามระยะ 6. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์มักจะมีสารช่วยรักษาซีลและยา งต่างๆให้นุ่มไม่แข็งแตกร้าวและกรอบง่าย ข้อเสียเปลี่ยนเป็น ไม่ควรใช้กับเครื่องยนต์เก่าที่สึกหรอหรือหลวม ซีลวาล์วหรือซีลต่างๆรั่ว เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องมาก(น้ำมันเครื่องหาย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น